วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แท็กซี่น้ำใจงาม!เก็บเงิน 2 ล้าน คืนเจ้าของชาวอินโดนีเซีย



น่ายกย่อง! โชเฟอร์แท็กซี่น้ำใจงาม เก็บเงิน 59,800 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,980,000 บาท คืนผู้โดยสารชาวอินโดนีเซีย หลังไปรับมาจากสนามบินสุวรรณภูมิ มาส่งย่านเจริญกรุง...
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 พ.ย.57 มีรายงานว่า นายศักดิ์ ชัยปอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/279 ม.5 ต.บางคูลัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี คนขับแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มช 2629 กทม. ได้เข้าพบ พ.ต.ท.วิศรุต เกิดหลำ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี พร้อมแจ้งความจำนงว่า ได้เก็บกระเป๋าถือแบบสะพายสีดำของผู้โดยสารต่างชาติไว้ 1 ใบ ซึ่งภายในมีกระเป๋าใส่ธนบัตรดอลลาร์ จำนวน 59,800 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยทั้งหมด 1,980,000 บาท และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง
นายศักดิ์ คนขับแท็กซี่ เปิดเผยว่า ก่อนจะพบกระเป๋าตนได้รับชาวต่างชาติสัญชาติอินโดนีเซีย ทราบชื่อภายหลังว่า นายอีวาน นู ชาเลส (Iwan Nuh Saleh) อายุ 49 ปี โดยตนได้รับผู้โดยสารดังกล่าวจากสนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นล่าง จากนั้นได้รับชาวต่างชาติดังกล่าวเพื่อไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านเจริญกรุง 30 จนขับมาถึงที่หมายถึงผู้โดยสารต่างชาติก็ได้ลงจากรถไป โดยที่ตนเองไม่ทราบว่าภายในรถที่เบาะด้านหลังผู้โดยสารได้ลืมกระกระเป๋าถือไว้
คนขับแท็กซี่ เปิดเผยอีกว่า ต่อมาตนจึงขับมาหน้าห้างโลตัสสระบุรี เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางกัน จากนั้นก็ได้รับแจ้งจากศูนย์ควบคุมการเดินรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า มีผู้โดยสารที่โดยสารมากับรถของตนเดินทางมาแจ้งว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้บนรถแท็กซี่ ตน ว่าพบหรือไม่ ตนเองจึงรุกมาดูภายในรถที่เบาะหลังถึงได้สำรวจพบกระเป๋าดังกล่าววางอยู่เบาะด้านหลังพร้อมกับได้ติดต่อไปยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อลงประจำวัน กระทั่งนายอีวาน เจ้าของเงินดังกล่าว เดินทางมาตรวจดูทรัพย์สินทั้งหมดปรากฏว่าอยู่ครบ พร้อมกับกล่าวขอบคุณและมอบรางวัลให้กับตน.

Dyson Digital SlimTM DC62 เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ผสานนวัตกรรมสู่งานบ้าน เสริมความคล่องตัวไร้ขีดจำกัด

Dyson Digital SlimTM DC62 เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ผสานนวัตกรรมสู่งานบ้าน เสริมความคล่องตัวไร้ขีดจำกัด



ลืมเครื่องดูดฝุ่นขนาดเทอะทะ ที่มีสายไฟพันกันเกะกะไปได้เลย ไดสันพลิกโฉมนวัตกรรมสู่อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านให้กลายเป็นเรื่องง่ายและสุขภาพดี กับเครื่องดูดฝุ่นไดสัน Digital SlimTM DC62 ที่มีน้ำหนักเบา ไร้สายไฟ มาพรอ้มพลังดูดฝุ่นเท่ากับเครื่องดูดฝุ่นขนาดมาตรฐาน ต่อเนื่องกับแรงดูดทรงพลัง 20 นาที น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก พร้อมอุปกรณ์หัวเปลี่ยนให้สามารถซอกซอนเข้าไปในพื้นที่สูง ต่ำ หรือในบริเวณที่ยากจะเข้าถึง ไม่ต้องทนรำคาญเรื่องการถอดปลั๊ก หรือการสะดุดสายไฟ ง่ายๆ เพียงแค่คุณถอดเครื่องออกจากอุปกรณ์ชาร์ตไฟ ก็สามารถนำเครื่องไปทำความสะอาดตามจุดต่างๆ ได้ตามใจคุณ
crose
เจมส์ ไดสัน กล่าวว่า “ดิจิตอลมอเตอร์ของเรา สร้างสรรให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยมอเตอร์รุ่น V6 มีความเร็วสูงกว่าและมีพลังแรงกว่ามอเตอร์รุ่นก่อน ด้วยการให้พลังขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องยาวนาน ช่วยให้ DC62 ทำงานได้อย่างทรงพลังมีประสิทธิภาพ ทำงานโดยเคลื่อนไปในพื้นที่ต่างๆ โดยปราศจากข้อจำกัดจากการที่ต้องเชื่อมต่อเครื่องกับปลั๊กที่ผนังเท่านั้น
crose
เครื่องดูดฝุ่นไดสัน Digital SlimTM DC62 ประกอบด้วยมอเตอร์ V6 รุ่นใหม่ถูกสร้างสรรขึ้นมาเฉพาะสำหรับเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ พัฒนามาจากเทคโนโลยี Integrated Motor ให้พลังมอเตอร์สูงกว่าเดิมถึง 1.5 เท่า โดยใช้แหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่
NX part: SB-002412
มากไปกว่านั้น เพื่อดักจับฝุ่นละเอียดอย่งมีประสิทธิภาพ วิศวกรของทีมไดสันออกแบบ 2 Tier RadialTM Cyclone ซึ่งประกอบด้วยไซโคลน 15 ชุด ทำงานคู่ขนานกัน 2 ชั้น เพื่อกำหนดทิศทางให้อากาศไหลผ่านอย่างทั่วถึงภายในชุดของไซโคลน โดยจะทำให้เกิดพลังแรงเหวี่ยงอย่างสม่ำเสมอ เสริมศักยภาพในการปั่นแยกฝุ่นออกจากอากาศ
crose
หัวดูดของเครื่องดูดฝุ่นไดสัน Digital SlimTM DC62 ประกอบด้วยขนแปรงเส้นใยคาร์บอนมีคุณสมบัติลดการสะสมของไฟฟ้าสถิตย์ ช่วยในการจับฝุ่นละเอียดบนพื้นแข็ง ทั้งยังมาพร้อมขนแปรงไนลอนแข็งที่สามารถดึงฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากพรมได้อย่างดีเยี่ยม

เครื่องดุดฝุ่นน้ำหนักเบา ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว และง่ายในการเก็บ: ตัวเครื่องขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ควบคุมพลังมอเตอร์ที่มือ ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดบนที่สูง หรือบริเวณพื้นด้านล่าง หรือในซอกที่แคบ ท่อดูดที่ทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบาสามารถถอดปรับระยะความยาวได้เพื่อให้สะดวกในการใช้งานทำความสะอาดบันได เฟอร์นิเจอร์บุผ้า ภายในรถยนต์ หรือพื้นที่แคบ การเก็บเครื่องก็แสนสะดวกง่ายดายโดยการแขวนเข้ากับอุปกรณ์ที่ยึดกับผนัง

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Asus Zenfone Zoom ราคา น่าคว้า กับกล้องสุดโหด

Asus Zenfone Zoom ราคา น่าคว้า กับกล้องสุดโหด


ในตลาดมือถือมีพื้นที่ของกลุ่มคนที่รักการถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนมากกว่าปกติ คนกลุ่มนี้อยากได้ภาพที่สวยงาม คมชัด ซูมได้ จากกล้องมือถือ เวลาไปงานสมาร์ทโฟนคำถามหลักๆคือ กล้องสวยไหม ความละเอียดเท่าไหร่ ไม่ค่อยแคร์สเปคด้านอื่นๆ และในงาน CES 2015 Asus ได้ปล่อยสมาร์ทโฟนกล้องโหดในราคารับได้มาให้เราน้ำลายไหลกันแล้วกับ Asus ZenFone Zoom !

Asus Zenfone Zoom

Asus Zenfone Zoom ราคา น่าคว้า กับกล้องสุดโหด 

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ZenFone Zoom นั้นไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟนที่กล้องซูมยื่นออกมา มันจึงยังคงความบางแบบสมาร์ทโฟนเอาไว้ได้ เพียงแต่มันอัดสเปคด้านกล้องมาเป็นพิเศษ ดังนั้น ใครที่สนใจสมาร์ทโฟนกล้องสวยเครื่องบาง รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากครับ และด้วยความที่รุ่นนี้เน้นกล้อง เราจะเอาสเปคกล้องขึ้นก่อนนะครับ
สเปคกล้องของ Asus Zenfone Zoom
– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.7 – 4.8 (เป็นปกติของเลนส์สายซูมที่ภาพจะสว่างน้อยกว่าเลนส์ฟิก)
– เลนส์ซูม 3X Optical Zoom, 12X zoom-in effect- มีระบบกันสั่น (OIS)
– แฟลช Dual-color Real Tone flash สีผิวเนียนสมจริง
– ใช้ระบบ Laser Focus จึงจับภาพได้ไวมาก
– ระบบ PixelMaster  : Low Light mode(ถ่ายในที่แสงน้อย)  / Backlight (HDR) mode (ถ่ายย้อนแสง)  / Enhanced Beautification mode (เพิ่มความงามของภาพ)  / Manual mode (มีโหมดให้ปรับเอง) / Zero shutter lag(กดชัตเตอร์แล้วติดเลยไม่มีแลค)
– กล้องหน้า 5 ล้าน f/2.0 มุมกว้าง 88 องศา ถ่ายเซลฟี่แบบพาโนราม่าได้
สเปคเครื่อง Asus Zenfone Zoom
– จอ iPS 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080p (403 ppi) Full HD  (เท่า ZenFone 2)
– ตัวเครื่องบางเพียง 11.95 มม.
– CPU คาดว่าจะเป็น Intel Atom Z3580 64-bit Quad Cores (สี่หัว)2.3GHz และ Ram 2 GB
– ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
– หน่วยความจำภายในสูงสุด 128GB (แต่ละประเทศจะไม่เท่ากัน ของไทยยังไม่ระบุ)
– แบตเตอรี่ 3,000 mAh
– มี 2 สีให้เลือกได้แก่ Meteorite Black และ Glacier White
– ราคาเปิดตัว $399 (ประมาณ 13,xxx-14,xxx บาท)
– วางจำหน่ายเม.ย.-พ.ค 2015 แล้วแต่ประเทศไหนจะได้วางขายก่อน
H1SC3wd1OoFl3PFE_setting_fff_1_90_end_500

โรงเรียนสุรนารีวิทยา (โรงเรียนที่ชอบ)

โรงเรียนสุรนารีวิทยา
                      โรงเรียนสุรนารีวิทยา (อักษรย่อส.ร.น., S.R.N) เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ ประจำจังหวัดนครราชสีมาประเภทโรงเรียนหญิงล้วน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้จัดการศึกษาจนเป็นที่ยอมรับของสังคมในการเป็นสถานศึกษาชั้นนำของโรงเรียนมัธยมศึกษาของไทย เป็นสถานศึกษาที่ได้รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษาประจำปีการศึกษา 2523 และได้รับรางวัลพระราชทานระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษประจำปีการศึกษา 2535 โรงเรียนสุรนารีวิทยาเป็นโรงเรียนที่มีต้นกำเนิดของโรงเรียนมัธยมแบบประสม (Comprehensive School) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยความเอาใส่ ทุ่มเท เสียสละอย่างต่อเนื่องจากผู้บริหาร บุคลากรของโรงเรียนตลอดจนนักเรียนและสังคมตลอดมา
ตราประจำโรงเรียน ตรงกลางเป็นรูปคุณย่าโมครอบด้วยเสมา ข้างล่างเป็นชื่อ โรงเรียนสุรนารีวิทยา
น้ำเงิน - ขาว คือสีประจำโรงเรียน ที่มีความหมายถึงกุลสตรีสุรนารีวิทยา

ระบบการปกครอง 12 คณะสี
โรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นโรงเรียนสตรีที่มีนักเรียนเข้าศึกษาจำนวนมากในทุกๆปี จึงได้มีการจัดการปกครองแบ่งเป็น "12 คณะสี" เพื่อให้สามารถดูและปกครองได้อย่างทั่วถึงกัน โดยใช้ชื่อวีรสตรีผู้กล้าหาญ และนางในวรรณคดีสมัยโบราณทั้งสิบสองคนเป็นตัวแทนของแต่ละคณะ ซึ่งเป็นหนึงในเอกลักษณ์ของโรงเรียน ประกอบด้วย
  •      คณะสุรนารี สีน้ำเงิน และได้อัญเชิญ "คุณหญิงโม(ท้าวสุรนารี)" วีรสตรีผู้ปกป้องเมืองโคราช เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะบุญเหลืออนุสรณ์ สีเขียวเข้ม และได้อัญเชิญ "คุณหญิงบุณเหลือ" วีรสตรีผู้ปกป้องเมืองโคราช เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะนพมาศ สีชมพู และได้อัญเชิญ "นางนพมาศ" กวีหญิงคนแรกของไทย เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะศรีสุริโยทัย สีเหลือง และได้อัญเชิญ "สมเด็จพระสุริโยทัย" วีรสตรีแห่งกรุงศรีอยุทธยา เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะเทพสตรี สีแดง และได้อัญเชิญ "ท้าวเทพสตรี" วีรสตรีของเมืองถลาง เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะศรีสุนทร สีฟ้า และได้อัญเชิญ "คุณมุก(ท้าวศรีสุนทร)" วีรสตรีผู้ปกป้องเมืองภูเก็ต เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะวิสุทธิกษัตริย์ สีม่วง และได้อัญเชิญ "พระวิสุทธิกษัตรีย์" สมเด็จพระบรมราชชนนีในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะวิสาขา สีเทา และได้อัญเชิญ "นางวิสาขา" ผู้เลิศในทายิกา เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะสาวิตรี สีน้ำตาล และได้อัญเชิญ "นางสาวิตรี" สตรีผู้เลิศทางสติปัญญา เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะจามเทวี สีแสด และได้อัญเชิญ "พระนางจามเทวี" ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรหริภุญชัย เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะมัทรี สีเขียวอ่อน และได้อัญเชิญ "พระนางมัทรี" ยอดพระมารดา แห่งกัณหาชาลี เป็นสตรีประจำคณะ
  •      คณะสีดา สีบานเย็น และได้อัญเชิญ "พระนางสีดา" พระชายาของพระราม เป็นสตรีประจำคณะ

เกียรติประวัติ
โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นโรงเรียนนำร่องผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับการกระจายอำนาจ เพื่อสนองและนำผลการปฏิรูปการศึกษาไปสู่ความสำเร็จ และตามกฎกระทรวง ลงวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
  • สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้พิจารณาให้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนคู่พัฒนา ปีการศึกษา 2550 ระหว่างโรงเรียนสุรนารีวิทยา กับโรงเรียนสุรนารีวิทยา ๒ เพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานเท่าเทียมกัน
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้รับคิดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้จัดหลักสูตรโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับการพัฒนา และส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช่วงชั้นที่ 4 ปีการศึกษา 2551
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้รับการคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมในการใช้หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศึกราช 2551 เริ่มใช้ปีการศึกษา 2552
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยา นักเรียนวงโยธวาฑิตโรงเรียนสุรนารีวิทยา จำนวน 120 คน ได้แชมป์ถ้วยพระราชทานจากการประกวดวงโยธวาฑิตนักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย ปีการศึกษา 2552
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดแข่งขันดนตรีโลก ครั้งที่ 16 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2552 ได้รับรางวัลเกียรติยศ คือ รางวัลเหรียญทองประเภท Maching และรางวัลชนะเลิศ Top of The World Championship ประเภท Display
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ปีการศึกษา 2552 ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ "ได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ ได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2552"

ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนสุรนารีวิทยา โรงเรียนสตรีของรัฐบาลแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ค. 2468 โดยแรกเริ่มได้ใช่ชื่อว่า “โรงเรียนประจำจังหวัด” อยู่ในบริเวณวัดสุทธจินดา ทำการสอนตั้งแต่ชั้นมูล (เด็กเล็ก) และในปี พ.ศ. 2470 ได้โอนนักเรียนหญิงทั้งหมดจากโรงเรียนประจำมณฑลนครราชสีมาไปอยู่รวมกัน และจึงเปิดสอนเฉพาะนักเรียนหญิง
  • พ.ศ. 2475 ก่อตั้งโรงเรียนเป็น “โรงเรียนประจำจังหวัด” ตั้งอยู่บริเวณวัดสุทธจินดา
  • พ.ศ. 2477 เปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนสุรนารีวิทยา” เป็นโรงเรียนหญิง คู่กับโรงเรียนชายประจำจังหวัด "ราชสีมาวิทยาลัย"
  • พ.ศ. 2490 วันที่ 20 พฤษภาคม โรงเรียนสุรนารีวิทยาเริ่มเปิดสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
  • พ.ศ. 2493 ย้ายที่อยู่โรงเรียนมาตั้งอยู่ในที่ตั้งปัจจุบัน จัดเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษสังกัดส่วนกลาง กองการมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ สถานที่ตั้งเลขที่ 248 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 2 กิโลเมตร ขนาดของพื้นที่ที่บริเวณโรงเรียน มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 53 ไร่ 2 งาน 96 ตารางวา
พื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน
  • ส่วนที่ 1 ปลูกสร้างอาคารเรียนตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ มีเนื้อที่ 48 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา
  • ส่วนที่ 2 ปลูกสร้างบ้านพักครูตั้งอยู่ถนนช้างเผือก มีเนื้อที่ 5 ไร่ 50 ตารางวา
ที่ดินที่ใช้จัดตั้งโรงเรียน มีจำนวน 2 แปลง
  • แปลงที่ 1 เป็นที่ดินราชพัสดุ จำนวน 48 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา
    • หมายเลขทะเบียนที่ นม. 747 โฉนดที่ 735 เลขที่ 6 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
  • แปลงที่ 2 เป็นที่ราชพัสดุ จำนวน 5 ไร่ 46 ตารางวา
    • หมายเลขทะเบียนที่ นม. 91 โฉนดที่ 5090 เลขที่ 6 ถนนช้างเผือก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
  • โรงเรียนสุรนารีวิทยาเป็นโรงเรียนที่มีต้นกำเนิดของโรงเรียนมัธยมแบบประสมแห่งแรกของประเทศไทย (Comprehensive School)
  • พ.ศ. 2495 ทางการได้แต่งตั้ง นางสาวลาวัลย์ ถนองจันทร์ ครูใหญ่โรงเรียนสตรีร้อยเอ็ดมาดำรงตำแหน่งครูใหญ่โรงเรียนสุรนารีวิทยา
  • พ.ศ. 2507 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนสุรนารีวิทยา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่ชาวสุรนารีวิทยาจากผลการทดสอบนี้ยังมีมีผลให้เกิดโรงเรียนมัธยมแบบประสมในประเทศอีกหลายโรงเรียน รวมทั้งหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น พุทธศักราช 2521 และหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524 ก็มีผลจากการทดลองจัดการศึกษาที่โรงเรียนสุรนารีวิทยาแห่งนี้อีกด้วย
  • พ.ศ. 2519 นางสาวลาวัลย์ ถนองจันทร์ ได้รับแต่ตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการ และกรมสามัญศึกษาได้แต่งตั้งให้ นางฉวี ถีระวงษ์ มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยาแทน และสร้างอาคารอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องสมุด ซึ่งได้รับ พระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า “อาคารวิทยาสมาคร” และเสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524
  • พ.ศ. 2528 นางฉวี ถีระวงษ์ เกษียณอายุราชการ กรมสามัญศึกษาแต่ตั้งนางสมพงศ์ ศิริวัฒน์ มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา
  • พ.ศ. 2537 นางสาวสมจิตต์ บุตรดีมี ผู้อำนวยการระดับ 9 มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา ต่อจากนางสมพงศ์ ศริวัฒน์ ที่เกษียณอายุราชการ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 8 ชั้น ซึ่งสร้างเสร็จในปีงบประมาณ 2542
  • พ.ศ. 2542 นายศิลปสิทธิ์ ทับทิมธงไชย ผู้อำนวยการระดับ 9 ได้มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา ต่อจากนางสาวสมจิตต์ บุตรดีมี ที่เกษียณอายุราชการได้ดำเนินงานตามนโยบาย
  • พ.ศ. 2543 ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนโรงเรียนสุรนารีสังกัดโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดนครราชสีมา กองการมัธยมศึกษา กรมสามัญ กระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ศ. 2546 ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม โรงเรียนสุรนารีวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
  • พ.ศ. 2547 โรงเรียนสุรนารีวิทยา ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้จัดหลักสูตรโครงการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เน้นการศึกษา (English Program) ระดับช่วงชั้นที่ 3

โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา


โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา

        โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา เป็นโรงเรียนรัฐบาลประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4 (ปทุมธานี สระบุรี) ได้รับอนุมัติจากกรมสามัญศึกษาให้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายแบบสหศึกษา ตั้งอยู่ที่ถนนมิตรภาพ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันมีนายมาโนช รวยลาภเป็นผู้อำนวยการ

ปรัชญาโรงเรียน : สามัคคี มีวินัย ใฝ่ศึกษา บูชาคุณธรรม นำชุมชน
สีประจำโรงเรียน : สีเลือดหมู และสีเหลือง
ต้นไม้ประจำโรงเรียน : ต้นประดู่แดง
เพลงประจำโรงเรียน : มาร์ชม.ว.
อัตลักษณ์ :  วิธีไทย วิธีโคนม  (คาวบอย)
ภาษาที่มีสอน : ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น
ในระยะแรกอาศัยอาคารเรียนของโรงเรียนวัดมวกเหล็กนอก (ราษฎร์พัฒนา) มีนักเรียน 46 คน และครู 6 คน มีนายทวี จันทวร เป็นผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียน ต่อมาได้ย้ายมาตังในที่ดินราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) มีเนื้อที่ 41 ไร่ 0 งาน 13 ตารางวา มีอาคารเรียน 1 หลังเป็นแบบ 216 ล ซึ่งเป็น อาคาร 1 ในปัจจุบัน ปีการศึกษา 2521 มีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรใหม่ และจำนวนนักเรียนชั้น ม.1 เพิ่มมากขึ้น จึงได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราว 1 หลัง ปีการศึกษา 2522 ได้รับงบประมาณสร้างหอประชุม 1 หลังอาคารโรงฝึกงาน 3 หลัง จำนวน 6 หน่วยอาคารพยาบาลและสหกรณ์จำนวน 1 หลังปีการศึกษา 2527 โรงเรียนได้รับอนุมัติให้เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีแผนการเรียน 2 แผนการเรียน ได้แก่ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ และแผนการเรียนเกษตรกรรมปีการศุกษา 2528 ได้รับอนุมัติให้ใช้พื้นที่ราชพัสดุในการดูแลขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อสค)เพื่อสร้างสนามกีฬา จำนวน 7 ไร่ 0 งาน 05 ตารางวาปีการศึกษา 2531 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการนำร่อง "การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรมัธยมศึกษา พุทธศักราช 2524 เพื่อประกอบอาชีพอิสระ"ของกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนจึงได้เปิดผนการเรียนอาชีพอิสระเพิ่มขึ้นอีก 1 แผนการเรียน และในปีนี้โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาการใช้หลักสูตรประจำปีการศึกษา 2532 โรงเรียนได้จัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเป็น 6-5-5 และในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเป็น 3-2-2 รวมจำนวนห้องเรียน 23 ห้องปีการศึกษา 2533 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาหลักสูตร มีนักเรียน 802 คน ครู-อาจารย์ 47 คน จำนวนห้องเรียน 23 ห้อง นักการภารโรง 5 คน และพนักงานขับรถ 1 คนปีการศึกษา 2546 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการ"หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน"ปีการศึกษา 2555 มีที่ดิน 48 ไร่ 0 งาน 18 ตารางวา มีครู-อาจารย์ 68 คน ครูอัตราจ้าง 8 คน พนักงานราชการ 2 คน มีจำนวนนักเรียน 1,600 มีนักการภารโรง 3 คน พนักงานขับรถ 1 คนปีการศึกษา 2556 ปัจจุบันมีที่ดิน 48 ไร่ 0 งาน 18 ตารางวา มีครู-อาจารย์ 63 คน ครูอัตราจ้าง 12 คน พนักงานราชการ 2 คน มีจำนวนนักเรียน 1,589 มีนักการภารโรง 3 คน พนักงานขับรถ 1 คน